chaiyot

𝐆𝐥𝐨𝐰𝐢𝐧𝐠 𝐄𝐯𝐞𝐫𝐦𝐨𝐫𝐞

𝐆𝐥𝐨𝐰𝐢𝐧𝐠 𝐄𝐯𝐞𝐫𝐦𝐨𝐫𝐞 : พราวแสงเหนือกาลเวลา
ศิลปิน ชัยยศ จินดากุล
Solo Exhibition by Chaiyot Jindagun
.
จัดแสดง 31 กรกฎาคม ถึง 4 กันยายน
From 31th July – 4th September 2022
ไม่อาจลืมละอองแสงที่สาดกระทบบนใบหน้ามีนัยยะของหุ่นโบราณเหล่านั้น รายละเอียดวิจิตรบนชฎาเครื่องยอด เส้นไหมที่ถักทอลายอย่างบรรจง พลอยประดับที่ปักร้อยอย่างปราณีตบนอาภรณ์หุ่นพากันส่องประกายความงามระยิบระยับ ความรู้สึกนั้นมันวูบวาบกลางอก ปักแน่นกลางจิตของศิลปินชัยยศ จินดากุล มาเป็นเวลาร่วม 15 ปี และเขาไม่อาจทรยศต่อความรู้สึกนั้น เขายังคงต่อยอดความตราตรึงนั้นผ่านผลงานจิตรกรรมในฐานะศิลปินอย่างสุดพละกำลัง ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยมและวิธีการที่ละเมียด ตั้งแต่เริ่มต้นค้นหาวัสดุอุปกรณ์ชั้นเลิศ ทั้งการเลือกเนื้อไม้ ผ้าลินิน การตอกหมุดทองเหลืองเข้าเฟรมแบบโบราณ ทุกตารางนิ้วในงานจิตรกรรมของศิลปินคือความทุ่มเท
.
I’ll never forget the brightness that shone on the ancient mannequins’ faces. The top beautifully woven silk has delicate embellishments. The mannequin’s robes’ elaborately embroidered jewels shone with brilliant splendor. That sensation rushed through his chest and stayed with artist Chaiyot Jindagun for 15 years. He couldn’t betray that sentiment, since he continues to leave his impression on the world as an artist through his paintings. With exceptional abilities and a delicate approach, beginning with the search for the best equipment. The use of wood, linen, and brass rivets in the antique frame. Every inch of a painter’s painting is filled with devotion.
“…วิญญาณศิลปินที่ผมเป็นไม่ใช่นักบุญ ผลงานของผมเป็นเพียงงานจิตรกรรมชิ้นเล็กๆ ที่ตั้งใจเพียงจะเขียนหุ่นที่มีพลังพอที่จะช๊อตหัวใจของผมเฉกเช่นวินาทีแรกที่หุ่นนั้นปรากฎตัวต่อหน้าผม งานจิตรกรรมของผมมันจะไม่ทำให้เมื่อดูแล้ว ฉลาดขึ้น เป็นคนดีขึ้น งานมันไม่ให้ความหมาย ไม่ตั้งคำถาม มันต้องการเพียงเรียก ” ความรู้สึก ” แค่นั้น นี่เป็นสิ่งที่ผมเพียรพยายาม ทั้งรีด เค้น ออกมาให้สุดฝีไม้ลายมือด้วยการทุ่มเทชีวิตแทบล้มประดาดาย ผมต้องการเพียง 7 พยางค์ คือ ” รูปเขียนที่ให้คนรู้สึก… ”
ถ้อยคำศิลปิน ชัยยศ จินดากุล
.
“..𝑀𝑦 𝑎𝑟𝑡𝑖𝑠𝑡 𝑠𝑜𝑢𝑙 𝑖𝑠 𝑛𝑜𝑡 𝑎 𝑠𝑎𝑖𝑛𝑡, 𝑚𝑦 𝑤𝑜𝑟𝑘 𝑖𝑠 𝑗𝑢𝑠𝑡 𝑎 𝑠𝑚𝑎𝑙𝑙 𝑝𝑎𝑖𝑛𝑡𝑖𝑛𝑔 𝑤𝑖𝑡ℎ 𝑡ℎ𝑒 𝑖𝑛𝑡𝑒𝑛𝑡𝑖𝑜𝑛 𝑡𝑜 𝑑𝑟𝑎𝑤 𝑚𝑎𝑛𝑛𝑒𝑞𝑢𝑖𝑛𝑠 𝑝𝑜𝑤𝑒𝑟𝑓𝑢𝑙 𝑒𝑛𝑜𝑢𝑔ℎ 𝑡𝑜 𝑠ℎ𝑜𝑐𝑘 𝑚𝑦 ℎ𝑒𝑎𝑟𝑡 𝑙𝑖𝑘𝑒 𝑡ℎ𝑒 𝑚𝑜𝑚𝑒𝑛𝑡 𝐼 𝑓𝑖𝑟𝑠𝑡 𝑠𝑎𝑤 𝑡ℎ𝑎𝑡 𝑚𝑎𝑛𝑛𝑒𝑞𝑢𝑖𝑛 𝑟𝑖𝑔ℎ𝑡 𝑖𝑛 𝑓𝑟𝑜𝑛𝑡 𝑜𝑓 𝑚𝑒. 𝑇ℎ𝑎𝑡 𝑖𝑠 𝑎𝑙𝑙. 𝑀𝑦 𝑝𝑎𝑖𝑛𝑡𝑖𝑛𝑔𝑠 𝑤𝑖𝑙𝑙 𝑛𝑜𝑡 𝑚𝑎𝑘𝑒 𝑎𝑛𝑦𝑜𝑛𝑒 𝑠𝑚𝑎𝑟𝑡𝑒𝑟 𝑜𝑟 𝑟𝑎𝑖𝑠𝑒 𝑎𝑛𝑦 𝑚𝑜𝑟𝑎𝑙 ℎ𝑖𝑔ℎ 𝑔𝑟𝑜𝑢𝑛𝑑 𝑓𝑜𝑟 𝑎𝑛𝑦𝑜𝑛𝑒. 𝑇ℎ𝑒𝑠𝑒 𝑤𝑜𝑟𝑘𝑠 𝑑𝑜 𝑛𝑜𝑡 𝑝𝑟𝑜𝑣𝑖𝑑𝑒 𝑚𝑒𝑎𝑛𝑖𝑛𝑔 𝑜𝑟 𝑟𝑎𝑖𝑠𝑒 𝑞𝑢𝑒𝑠𝑡𝑖𝑜𝑛𝑠, 𝑗𝑢𝑠𝑡 “𝑓𝑒𝑒𝑙𝑖𝑛𝑔𝑠.” “.
𝑇ℎ𝑖𝑠 𝑖𝑠 𝑤ℎ𝑎𝑡 𝐼’𝑣𝑒 𝑑𝑜𝑛𝑒 𝑎𝑛𝑑 𝑡𝑟𝑖𝑒𝑑 𝑎𝑔𝑎𝑖𝑛, 𝑎𝑛𝑑 𝐼 𝑝𝑢𝑠ℎ𝑒𝑑 𝑖𝑡 𝑡𝑜 𝑡ℎ𝑒 𝑙𝑖𝑚𝑖𝑡 𝑏𝑦 𝑐𝑜𝑚𝑚𝑖𝑡𝑡𝑖𝑛𝑔 𝑚𝑦 𝑙𝑖𝑓𝑒. “𝑃𝑎𝑖𝑛𝑡𝑖𝑛𝑔 𝑡ℎ𝑎𝑡 𝑚𝑎𝑘𝑒𝑠 𝑝𝑒𝑜𝑝𝑙𝑒 𝑓𝑒𝑒𝑙” 𝑤𝑎𝑠 𝑡ℎ𝑒 𝑜𝑛𝑙𝑦 7 𝑠𝑦𝑙𝑙𝑎𝑏𝑙𝑒 𝑝ℎ𝑟𝑎𝑠𝑒 𝐼 𝑛𝑒𝑒𝑑𝑒𝑑 𝑡𝑜 ℎ𝑒𝑎𝑟 𝑟𝑒𝑔𝑎𝑟𝑑𝑖𝑛𝑔 𝑚𝑦 𝑤𝑜𝑟𝑘𝑠…”
Words from the artist Chaiyot Jindagun
นิทรรศการแสดงเดี่ยวครั้งที่ 6 ในช่วงวัย 38 ปีของศิลปินชัยยศ จินดากุล เขายังคงสร้างงานศิลปะโดยเจตนารมณ์แน่วแน่ คือ ” รูปเขียนที่ให้คนรู้สึก ” ด้วยกำลังและความสามารถที่เต็มที่ที่สุดในช่วงเวลาชีวิตนั้นๆของเขา ในนิทรรศการ Growing Evermore ครั้งนี้ได้แสดงถึงศักยภาพของศิลปินที่พัฒนาขึ้นอีกอย่างน่าทึ่ง หากเปรียบเป็นสัตว์ ศิลปินบอกว่า เลือดเนื้อและจิตวิญญาณในการสร้างงานศิลปะของเขาเปรียบเช่นเสือซีตาร์ สัตว์นักล่าที่มีความเร็วเป็นอาวุธและหุ่นโบราณที่เต็มไปด้วยมนตร์ขลังที่เขาหลงใหลนี้เขาเปรียบดังเช่นเหยื่อของสัตว์นักล่า คือ สัตว์ตระกูลละมั่งกาเซลส์ ที่มีวิวัฒนาการสมบูรณ์แบบไม่แพ้ผู้ล่า เสือซีตาร์ต้องวิวัฒนาการควบคู่ให้เท่าทันจึงจะทัดเทียมและอยู่รอดจากความตาย
.
The sixth solo exhibition, at the age of 38 years of artist Chaiyot Jindagun, he continues to create art with an uncompromising intention of “paintings that make people feel” with the greatest strength and ability in that certain period of his life. The Glowing Evermore exhibition showcases the potential of the artist who has evolved in another amazing way. If compared to an animal, the artist says that his flesh and soul in creating his art is like a cheetah, a predator with speed as a weapon and ancient mannequins filled with mystical charms, he is like a prey for predators that belong to the species of gazelle with perfect evolution, not losing to predators. The cheetah must evolve in tandem to become equal and survive death.
“….กฎของหุ่นแข็งแกร่งและเลอค่ายิ่ง ผมก็เช่นนักล่า การวิวัฒนาการร่วมกันระหว่างนักล่ากับผู้ถูกล่า ปัจจัยของถนนวงจรชีวิตเส้นนี้ อย่างที่กล่าวมาแล้วคือ เครื่องมือ กับหัวใจ ที่พรั่งพร้อมเท่านั้น หัวใจนักสู้ ใจต้องมีสภาพที่พร้อมกับความทุกข์ยาก ทุกข์จากความหิวความอดอยากนั้นเป็นความทุกข์ภายนอก คือทุกข์ทางกายที่ว่าหนักแล้วแต่ทุกข์ที่ได้รับจากการบีบคั้นทางใจจะทำให้ทุกข์ทางกายที่ว่ามาเป็นของเด็กเล่นไปเลย ดังนั้น “ขันติ” ที่จะนำมาใช้ในการนี้ต้องมีพละกำลังมหาศาล และมากพอที่จะนำมาใช้ให้ทันเรื่อง เมื่อมีเป้าหมายที่ยากและใหญ่โตเพียงใด ขันติของผมก็ต้องแรงกล้าพอจะจัดการเรื่องได้อย่างประณีตหมดจด ผมรังเกียจคำว่า ฟลุค ดวง โชค ความบังเอิญ กระแส หรือสูตรสำเร็จอะไรต่าง ๆ มันเป็นของหลอกเด็ก เป็นรางวัลปลอม ๆ ชั่วครั้งชั่วคราวที่มีไว้หลอกคนโง่ ๆ ให้หลงดีใจสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับมัน มันไม่ใช่ของจริง บางขณะเมื่อผมเผลอไผล หลงดีใจไปกับมัน แต่พอมันจากไป มันเจ็บ มันกัด มันตบหน้าผม…” ศิลปินกล่าว
.
“…𝑀𝑎𝑛𝑛𝑒𝑞𝑢𝑖𝑛’𝑠 𝑟𝑢𝑙𝑒𝑠 𝑎𝑟𝑒 𝑠𝑡𝑟𝑜𝑛𝑔 𝑎𝑛𝑑 𝑣𝑎𝑙𝑢𝑎𝑏𝑙𝑒. 𝑇ℎ𝑒 𝑐𝑜-𝑒𝑣𝑜𝑙𝑢𝑡𝑖𝑜𝑛 𝑜𝑓 𝑡ℎ𝑒 ℎ𝑢𝑛𝑡𝑒𝑟 𝑎𝑛𝑑 𝑝𝑟𝑒𝑦, 𝑎𝑠 𝑜𝑝𝑝𝑜𝑠𝑒𝑑 𝑡𝑜 𝑡ℎ𝑒 𝑝𝑟𝑒𝑑𝑎𝑡𝑜𝑟. 𝑇ℎ𝑒 𝑟𝑜𝑢𝑡𝑒 𝑘𝑛𝑜𝑤𝑛 𝑎𝑠 𝑡ℎ𝑒 𝑙𝑖𝑓𝑒 𝑐𝑦𝑐𝑙𝑒 𝑐𝑜𝑛𝑡𝑎𝑖𝑛𝑠 𝑣𝑎𝑟𝑖𝑎𝑏𝑙𝑒𝑠 𝑠𝑢𝑐ℎ 𝑎𝑠 𝑡𝑜𝑜𝑙𝑠 𝑎𝑛𝑑 ℎ𝑒𝑎𝑟𝑡 𝑡ℎ𝑎𝑡 𝑤𝑜𝑟𝑘 𝑖𝑛 𝑡𝑎𝑛𝑑𝑒𝑚, 𝑎𝑛𝑑 𝑡ℎ𝑒 𝑚𝑖𝑛𝑑 𝑚𝑢𝑠𝑡 𝑏𝑒 𝑝𝑟𝑒𝑝𝑎𝑟𝑒𝑑 𝑡𝑜 𝑓𝑎𝑐𝑒 𝑎𝑑𝑣𝑒𝑟𝑠𝑖𝑡𝑦. 𝐻𝑢𝑛𝑔𝑒𝑟 𝑖𝑠 𝑜𝑛𝑙𝑦 𝑝ℎ𝑦𝑠𝑖𝑐𝑎𝑙 𝑚𝑖𝑠𝑒𝑟𝑦, 𝑎𝑠 𝑜𝑝𝑝𝑜𝑠𝑒𝑑 𝑡𝑜 𝑡ℎ𝑒 𝑚𝑜𝑠𝑡 𝑎𝑔𝑜𝑛𝑖𝑧𝑖𝑛𝑔 𝑝𝑎𝑖𝑛, 𝑤ℎ𝑖𝑐ℎ 𝑖𝑠 𝑠𝑢𝑓𝑓𝑒𝑟𝑖𝑛𝑔 𝑓𝑟𝑜𝑚 𝑚𝑒𝑛𝑡𝑎𝑙 𝑡𝑦𝑟𝑎𝑛𝑛𝑦, 𝑤ℎ𝑖𝑐ℎ 𝑙𝑜𝑤𝑒𝑟𝑠 𝑡ℎ𝑒 𝑠𝑡𝑎𝑡𝑒 𝑜𝑓 𝑝ℎ𝑦𝑠𝑖𝑐𝑎𝑙 𝑝𝑎𝑖𝑛 𝑡𝑜 𝑐ℎ𝑖𝑙𝑑’𝑠 𝑝𝑙𝑎𝑦. 𝐴𝑠 𝑎 𝑟𝑒𝑠𝑢𝑙𝑡, 𝑟𝑒𝑠𝑖𝑙𝑖𝑒𝑛𝑐𝑒 𝑎𝑛𝑑 𝑝𝑎𝑡𝑖𝑒𝑛𝑐𝑒 𝑚𝑢𝑠𝑡 𝑏𝑒 𝑎𝑡 𝑡ℎ𝑒𝑖𝑟 𝑝𝑒𝑎𝑘 𝑡𝑜 𝑘𝑒𝑒𝑝 𝑢𝑝 𝑤𝑖𝑡ℎ 𝑤ℎ𝑎𝑡 𝑖𝑠 𝑔𝑜𝑖𝑛𝑔 𝑜𝑛 𝑖𝑛 𝑡ℎ𝑒 𝑝𝑟𝑒𝑠𝑒𝑛𝑡. 𝑀𝑦 𝑝𝑎𝑡𝑖𝑒𝑛𝑐𝑒 𝑚𝑢𝑠𝑡 𝑏𝑒 𝑠𝑡𝑟𝑜𝑛𝑔 𝑒𝑛𝑜𝑢𝑔ℎ 𝑡𝑜 ℎ𝑎𝑛𝑑𝑙𝑒 𝑝𝑟𝑜𝑏𝑙𝑒𝑚𝑠 𝑓𝑢𝑙𝑙𝑦 𝑤ℎ𝑒𝑛 𝑡ℎ𝑒 𝑎𝑖𝑚 𝑖𝑠 𝑙𝑎𝑟𝑔𝑒 𝑎𝑛𝑑 𝑡𝑜𝑢𝑔ℎ. 𝐼 𝑑𝑒𝑡𝑒𝑠𝑡 𝑤𝑜𝑟𝑑𝑠 𝑙𝑖𝑘𝑒 “𝑓𝑙𝑢𝑘𝑒,” “𝑙𝑢𝑐𝑘,” “𝑐𝑜𝑖𝑛𝑐𝑖𝑑𝑒𝑛𝑐𝑒,” “𝑡𝑟𝑒𝑛𝑑,” 𝑎𝑛𝑑 𝑎𝑛𝑦 𝑜𝑡ℎ𝑒𝑟 𝑞𝑢𝑖𝑐𝑘 𝑓𝑖𝑥 𝑜𝑟 𝑓𝑜𝑟𝑚𝑢𝑙𝑎𝑒. 𝐼𝑡 𝑖𝑠 𝑛𝑜𝑡ℎ𝑖𝑛𝑔 𝑚𝑜𝑟𝑒 𝑡ℎ𝑎𝑛 𝑎 𝑓𝑎𝑙𝑠𝑒, 𝑡𝑒𝑚𝑝𝑜𝑟𝑎𝑟𝑦 𝑖𝑛𝑐𝑒𝑛𝑡𝑖𝑣𝑒 𝑑𝑒𝑠𝑖𝑔𝑛𝑒𝑑 𝑡𝑜 𝑚𝑖𝑠𝑙𝑒𝑎𝑑 𝑝𝑒𝑜𝑝𝑙𝑒 𝑖𝑛𝑡𝑜 𝑏𝑟𝑖𝑒𝑓𝑙𝑦 𝑒𝑛𝑗𝑜𝑦𝑖𝑛𝑔 𝑎𝑛𝑑 ℎ𝑎𝑣𝑖𝑛𝑔 𝑝𝑙𝑒𝑎𝑠𝑢𝑟𝑒. 𝐼𝑡 𝑖𝑠𝑛’𝑡 𝑔𝑒𝑛𝑢𝑖𝑛𝑒; 𝐼 𝑓𝑖𝑛𝑑 𝑚𝑦𝑠𝑒𝑙𝑓 𝑙𝑒𝑡𝑡𝑖𝑛𝑔 𝑚𝑦𝑠𝑒𝑙𝑓 𝑔𝑜 𝑤𝑖𝑡ℎ 𝑡ℎ𝑖𝑠 𝑎𝑟𝑡𝑖𝑓𝑖𝑐𝑖𝑎𝑙 𝑏𝑙𝑖𝑠𝑠 𝑎𝑡 𝑡𝑖𝑚𝑒𝑠, 𝑏𝑢𝑡 𝑤ℎ𝑒𝑛 𝑖𝑡 𝑔𝑜𝑒𝑠, 𝑖𝑡 𝑠𝑡𝑖𝑛𝑔𝑠 𝑎𝑛𝑑 𝑠𝑚𝑎𝑐𝑘𝑠 𝑚𝑒 𝑖𝑛 𝑡ℎ𝑒 𝑓𝑎𝑐𝑒.” As said by the artist.
ในพื้นที่ระนาบแห่งจิตรกรรมของชัยยศนั้นเต็มไปด้วยห้วงอารมณ์ความรู้สึกที่ซ้อนทับหลายมิติ ความขัดแย้งกันระหว่างเส้นร่าง น้ำหนักเริ่ม ดูดุดันขึงขัง รวดเร็ว รุนแรง กระชากลากสะบัดเสมือนการไขว่คว้าเหยื่อเป้าหมายของนักล่า และเมื่อการล่านั้นได้ดังหมาย เมื่อถึงจุดอิ่มเอมความเรืองรองระยิบระยับในจุดเด่นนั้นจะต้องแสงไฟเฉิดฉาย โดดเด่นท้าทายสายตาและความรู้สึกกับผู้ชมอย่างไม่ประนีประนอม
.
There was a multidimensional realm of emotion and feelings in Chaiyot’s painting plane. The weight of the conflict between the drafted lines became swift and ferocious, swinging like a hunter’s prey. Unfortunately, when the quest is completed or reaches its peak, the sparkling glow in the spotlight must be brilliantly lighted. Outstanding, without compromising the audience’s eyes and feelings.
𝐆𝐥𝐨𝐰𝐢𝐧𝐠 𝐄𝐯𝐞𝐫𝐦𝐨𝐫𝐞
นิทรรศการเดี่ยวครั้งที่ 6
โดยศิลปิน ชัยยศ จินดากุล
จัดแสดงวันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 4 กันยายน
เปิดให้เข้าชมในเวลาทำการของแกลลอรี่
วันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 11.00 – 18.00 น.
ปิดทำการทุกวันจันทร์
( ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม )
และเรียนเชิญเข้าร่วมงานเปิดนิทรรศการ
ในวันอาทิตย์ที่ 31กรกฎาคม เวลา 18.00 น.
ที่ Joyman Gallery
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
086-8911893 หรือ 065-1241111.
Instagram: joyman_gallery
Email : manager.joymangallery@gmail.com
.
𝐆𝐥𝐨𝐰𝐢𝐧𝐠 𝐄𝐯𝐞𝐫𝐦𝐨𝐫𝐞
The 6th Solo Exhibition by Chaiyot Jindagun
On display from 31 July – 4 September 2022
Open for viewing at Joyman Gallery during business hours (11.00 – 18.00)
Free entrance.We are closed every monday as it is the gallery’s holiday.
We kindly welcome you to the opening reception on Sunday, July 31, 2022, at 6:00 PM at Joyman Gallery, Bangkok.
For additional information,
please call 086-8911893 or 065-1241111.
Instagram: joyman_gallery
Email : manager.joymangallery@gmail.com